วิทยาลัยการศึกษาตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หลักการและเหตุผล

การมองอนาคต (Foresight) เป็นเครื่องมือสำคัญในการบ่งชี้สัญญาณความเปลี่ยนแปลง กำหนดทิศทางของอนาคต รวมถึงประเมินความไม่แน่นอน เพื่อรับรู้คาดการณ์ภาพความเปลี่ยนแปลง และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบันที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและรุนแรง มีทั้งความท้ายทาย (Challenge) ความผันผวน (Volatility) ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความซับซ้อน (Complexity) และความคลุมเครือ (Ambiguity) สามารถส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยสถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (IFI) ตระหนักถึงความสำคัญของการนำเครื่องมือการมองอนาคตมาปรับใช้ในการกำหนดทิศทาง (Direction setting) และวางแผนยุทธศาสตร์ที่นำไปสู่การตัดสินใจเชิงนโยบาย จึงได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการมองอนาคตเชิงกลยุทธ์สำหรับภาครัฐ (Strategic Foresight for Public Sector) เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านอนาคตศาสตร์ให้กับผู้มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย แผนงานและกิจกรรมการพัฒนาในระยะยาว ให้มีความเข้าใจและสามารถคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างมีทิศทาง และมีความพร้อมที่จะพัฒนานโยบายและแนวทางเชิงกลยุทธ์ให้เป็นไปอย่างสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
ในการนี้ ทางสถาบันนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความประสงค์ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพด้านการมองอนาคตนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์สำหรับภาครัฐ ร่วมกับ สถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม (IFI) เพื่อจัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการตามโครงสร้างหลักสูตรการมองอนาคตเชิงกลยุทธ์สำหรับภาครัฐ (Strategic Foresight for Public Sector) เพื่อยกระดับศักยภาพ ความรู้ความเข้าใจและทักษะแนวความคิดการมองอนาคตให้กับกลุ่มนักวิชาการ นักกลยุทธ์และนักนโยบาย รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายนักอนาคตศาสตร์ของประเทศให้มีความเข้มแข็ง
โดยสามารถเรียนผ่านโปรแกรม Zoom ตาม Link นี้ >>> SPP Foresight Training <<<

เนื้อหาของหลักสูตร

อบรมเชิงปฏิบัติการ ระยะเวลา 2 วัน ประกอบด้วยหัวข้อ/ขอบเขตเนื้อหาในการฝึกอบรม โดยเน้นการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ความฉลาดทางอารมณ์(Emotional Intelligence) และการคิดเชิงอนาคต (Future Thinking) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต (Future Readiness) รายละเอียดดังนี้

วันที่ 1 หัวข้อ Discover
- การคิดเชิงอนาคต (Futures thinking) และความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)
- ทฤษฎีการคิดเชิงซับซ้อน (Complexity thinking)
- เทคนิคการวิเคราะห์เหตุและผลแบบเป็นลำดับชั้น (Causal-layered Analysis : CLA)
- การเปรียบเทียบอุปมาอุปไมยในการสื่อนโยบาย (power of metaphors)

วันที่ 2 หัวข้อ Reflect
- ประเด็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ (Driving Forces)
- การวางแผนด้วยภาพอนาคต (Scenario Planning)
- การมองเหตุการณ์ในอนาคต (Back-casting)
- การวิเคราะห์แผนกลยุทธ์ด้วยเทคนิคและสรุปบทเรียนที่ได้เรียนรู้และการปรับนำไปใช้ (Wind-tunneling & AHA Moments: Lessons Learned)