“Pure Country Music” เกิดจากการใช้ดนตรีเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างวัย ของพี่อาคม วชิรโรจน์ประภา อดีตข้าราชการครูผู้มีใจรักในดนตรีแนวคันทรี่ กับน้องมิคกี้ผู้เป็นหลานชาย ที่เล่นร่วมกันจนเกิดเป็นวงดนตรีของคนต่างวัยในที่สุด

การเกิดขึ้นที่เต็มไปด้วยความรักและมิตรภาพระหว่างปู่กับหลานนี้ พี่อาคมจึงส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ไปยังผู้อื่นเช่นกัน โดยมักร่วมแสดงในงานหรือโอกาสต่าง ๆ ทั้งงานเปิดหมวก หรือแม้กระทั่งงานจิตอาสาตามโรงพยาบาล สมาคม และมูลนิธิ

ก่อนจะมาเป็น “ดนตรีปู่กับหลาน” นั้น น้องมิคกี้เป็นเด็กพิเศษที่อาศัยอยู่กับย่าทวด เมื่อย่าทวดจากไปแล้ว พี่อาคมจึงเข้ารับน้องมิคกี้เข้ามาอยู่ในความดูแล และฝึกน้องมิคกี้ให้เล่นดนตรี เช่น เปียโน กีตาร์และไวโอลิน ซึ่งช่วยให้อาการสมาธิสั้นและเรียนรู้ช้าของน้องมิคกี้นั้นดีขึ้น

ด้วยเหตุนั้นพี่อาคมจึงก่อตั้งวงดนตรีโดยใช้ชื่อว่า Pure Country Music (ดนตรีปู่กับหลาน) ขึ้นมา โดยเริ่มด้วยการเล่นดนตรีเปิดหมวกตามงานต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางหาทุนการศึกษาให้กับน้องมิคกี้ นอกจากเล่นดนตรีเปิดหมวกแล้ว Pure Country Music ยังเล่นดนตรีจิตอาสาตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ รพ.รามาฯ,รพ.จุฬาภรณ์, มูลนิธิยุวพัฒน์, มูลนิธิยุวลักษณ์, สมาคมเกี่ยวกับคนพิการและสถาบันราชานุกูล ฯลฯ บางงานอบรมก็เชิญพี่อาคมและน้องมิคกี้เข้าแสดงในฐานะนักดนตรีรับเชิญอีกด้วย 

จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาของวงดนตรีของปู่กับหลาน ทำให้ในปี พ.ศ. 2560 Pure Country Music มีโอกาสเล่นดนตรีในต่างประเทศที่งาน “Workshops for Smart Technology and Community Mental Health in Southeast Asia : การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะและสุขภาพจิตชุมชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่ประเทศไต้หวัน อีกทั้งน้องมิคกี้ยังได้รับรางวัลเกียรติคุณในสาขา “เด็กพิเศษและเยาวชนที่ทำคุณประโยชน์อันก่อให้เกิดการยอมรับแก่กลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ” อีกเช่นกัน

การเดินทางเล่นดนตรีร่วมกันของคนต่างวัย จึงไม่เพียงเป็นแค่การเล่นดนตรีเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดความเข้าใจต่อคนที่ต่างกันในด้านต่าง ๆ

“เด็กพิเศษก็เหมือนเด็กทั่วไป เขาก็อยากเป็นคนเก่งคนดีเหมือนกัน ค้นหาความสามารถของเขาให้เจอและส่งเสริมเขา” 

“การที่รับน้องมิคกี้มาเลี้ยงนั้นทำให้ผมใจเย็นลง ปกติผมเป็นคนค่อนข้างหงุดหงิดง่ายและค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเอง การที่รับเขามาดูแลนั้นทำให้ผมยอมรับในความคิดของคนอื่นด้วย และทำให้มองโลกในแง่ดี ก่อนที่เราจะสอนน้องเราต้องทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างก่อน” 

คำบอกเล่าของพี่อาคม แสดงอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เรียนรู้จากน้องมิคกี้ ผู้เป็นทั้งหลานและเพื่อนร่วมวงดนตรี ที่ช่วยให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ ต่อผู้อื่น อีกทั้งยังช่วยปรับเปลี่ยนตนเองอีกทางหนึ่ง

ปัจจุบันน้องมิคกี้ได้รับทุนการศึกษาเรียนฟรีจากความสามารถด้านดนตรีที่ ม.เกษมบัณฑิต ร่มเกล้า สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และพี่อาคมได้รับน้องมิคกี้มาเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายแล้ว

ติดตามผลงาน และเรื่องราวดี ๆ บน Facebook Page ของพี่อาคมได้ที่

Pure Country Music ดนตรีของปู่กับหลาน

https://www.facebook.com/purecountrymusic

_____________________________________________________

เรื่อง: ธนกฤต กองพล